การออกบูธงานแฟร์ต้องเตรียมอะไรบ้าง ให้สินค้าดูปังและน่าสนใจ
ในยุคปัจจุบัน ธุรกิจมีการแข่งขันที่ดุเดือดมากยิ่งขึ้น การแข่งขันเกมธุรกิจทุกประเภทต่างก็ต้องงัดกลยุทธ์ในการต่อสู้กับเกมทางการค้าอยู่ตลอดเวลา การออกบูธงานแฟร์ (Exhibit) ก็เป็นหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ และมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ดังที่งานไทยเที่ยวไทย เคยพูดถึงประโยชน์ของการออกบูธงานแฟร์มีหลายอย่าง ได้แก
1. เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย การออกบูธ เป็นหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้มีมูลค่าทางการค้าให้มากขึ้น ผ่านการนำตัวสินค้าที่มีไปให้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้เห็น หากบูธมีความน่าสนใจ การที่คนจะเดินเข้าบูธจึงเป็นการสร้างความสำเร็จได้ไปอีกหนึ่งขั้น และขั้นต่อไปคือการนำเสนอสินค้า รวมไปถึงการมอบสินค้าของแถมพรีเมียมให้ลูกค้าด้วย และหากเป็นกลุ่มลูกค้าเดิม ก็ควรมีโปรโมชันเอาใจลูกค้าเก่า เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม และเพื่อเพิ่มยอดให้ได้มากขึ้น
2. ให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น การได้ปรากฏตัวสินค้าให้ผู้คนได้เห็นในที่ใหม่ๆ ทำให้ผู้คนได้เห็นตัวสินค้า และสามารถจดจำแบรนด์ได้ง่ายมากขึ้น เป็นวิธีที่คนสามารถมองเห็นโดยที่ไม่ได้เป็นการมองเห็นจากการโฆษณา และถ้ายิ่งไปออกบูธบ่อยๆ ก็จะยิ่งทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำมากขึ้นไปอีก
3. ลูกค้าได้เห็นสินค้าของจริง เมื่อลูกค้าสามารถสัมผัส และทดสอบความชอบได้ด้วยตัวเองอย่างถี่ถ้วนแล้ว การตัดสินใจในการซื้อก็จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เพราะฉะนั้น การที่ลูกค้าได้เห็นสินค้าของจริง จึงถือว่าเป็นจุดเด่นของการออกบูธมากเลยทีเดียว
4. ทำให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือ เมื่อลูกค้าได้เห็นสินค้าของจริงแล้ว เมื่อไรที่เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวสินค้า การที่สามารถถามได้ทันที ณ ตอนนั้น และมีเจ้าของแบรนด์ หรือคนในทีมช่วยให้คำตอบได้ จะยิ่งทำให้แบรนด์เกิดความน่าเชื่อถือ และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ การออกบูธทุกครั้งเพื่อความสำเร็จ ผู้ประกอบการก็ควร วางแผน (Planning) ให้ดี เพื่อที่วันจริงจะได้ไม่มีเหตุขัดข้อง และเพื่อให้การออกบูธเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น ซึ่งขั้นตอนการวางแผน มีขั้นตอนดังนี้
1. เลือกสินค้าให้เหมาะสมอิเวนต์ การออกบูธ ควรคัดสินค้าที่ดี และตรงกับคอนเซปต์งานอิเวนต์ เพื่อสร้างความสนใจให้กับผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ ควรศึกษาทำเลที่ตั้งของบูธว่าบูธรอบข้างเป็นสินค้าประเภทไหน บูธเป็นมุมหลบสายตาหรือไม่ หากหลบมากไปจะทำอย่างไรให้คนเห็นสินค้า และต้องเลือกสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่ได้มาร่วมงานนั้นๆ ด้วย
2. ตั้งเป้าหมายในการออกบูธ เจ้าของกิจการจำเป็นต้องมีทิศทางในการออกบูธที่ชัดเจน ว่าออกบูธในแต่ละครั้งเพื่ออะไร ไม่ว่าจะเป็นการออกบูธเพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตมากกว่าเดิม การประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมไปถึงการออกบูธเพื่อหาพาร์ตเนอร์ลงทุนทำธุรกิจด้วยกัน หลังจากจบงานก็ควรมีการสรุปได้ว่าการออกบูธครั้งนี้คุ้มกับลงทุนไปหรือไม่
3. กำหนดเป้าหมายของลูกค้า ทุกครั้งที่มีการออกบูธ เจ้าของธุรกิจต้องมีการเตรียมข้อมูลแบบแผนในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ยิ่งถ้าตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากลุ่มใหญ่ได้ จะยิ่งเป็นกำไรในการออกบูธครั้งนั้นๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งการออกงานแต่ละครั้งอาจมีบางงานอิเวนต์ใหญ่ๆ ที่จะมีกลุ่มลูกค้าจากต่างชาติที่มองหาธุรกิจที่น่าสนใจ พร้อมมีสินค้าที่โดดเด่น หากเข้าตาเมื่อไรก็อาจมีโอกาสร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ใหม่ได้ไม่ยาก
4. เตรียมกิจกรรมร่วมสนุก บูธสินค้าบูธไหนที่มีสินค้าดี บริการประทับใจ แถมยังมีกิจกรรมที่มีของรางวัล พร้อมของแจกงานอิเวนต์จะยิ่งสร้างความน่าสนใจให้กับบูธ และสิ่งเหล่านี้เองจะช่วยให้บูธไม่ร้างผู้คนตลอดทั้งงาน และยังช่วยดึงดูดให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ พร้อมสร้างการจดจำแบรนด์ได้มากขึ้นอีกด้วย

และเมื่อเข้าใจว่าการออกบูธสำคัญอย่างไร และมีการวางแผนอย่างไรแล้ว ต่อไปคือการเตรียมความพร้อมสำหรับการออกบูธ ซึ่งจะมีขั้นตอนต่างๆ ได้แก่
1. จัดการค่าใช้จ่ายในการออกบูธ การออกบูธในแต่ละครั้ง ย่อมมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าสถานที่ ค่าอุปกรณ์ตกแต่งบูธ ค่าสินค้าของแถมพรีเมียมที่ต้องเตรียมไว้ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องใช้เงินมาลงทุนในส่วนนี้อยู่ทุกครั้งที่มีการออกบูธ ไม่เพียงเฉพาะเงินทุนเท่านั้น เพราะผู้ประกอบการต้องมีเงินสำรอง และเงินทอนสำหรับลูกค้าเตรียมพร้อมไว้ด้วย
2. เตรียมสินค้ามาขายให้เพียงพอ พระเอกของการออกบูธก็คือสินค้าที่จะนำไปขาย ต้องมั่นใจว่าสินค้าที่นำออกไปขายนั้นจะดึงความสนใจของลูกค้าได้ และเมื่อสินค้าขายได้ดีแล้ว ควรมีสินค้าสต็อกไว้ให้พอจนจบงาน แต่เมื่อไรที่เกิดปัญหาสินค้าไม่พอขึ้นมา ก็ต้องวางแผนเตรียมตัวแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ เช่น การให้ลูกค้าพรีออเดอร์ และทางร้านจะทำการจัดส่งให้ในภายหลัง หรือจะให้ลูกค้ามารับเองที่บูธในวันถัดไปก็ได้ เพื่อแสดงถึงความเอาใจใส่ และเพื่อสร้างความประทับใจต่อแบรนด์มากขึ้น
3. อุปกรณ์และของตกแต่งบูธ อุปกรณ์ของตกแต่งสำคัญ ที่ทำให้บูธเป็นน่าสนใจ น่าจดจำ ได้แก่
3.1 แบ็กดร็อป (Backdrop)เป็นหนึ่งอุปกรณ์ที่นับว่าเป็นส่วนสำคัญของการออกบูธ เป็นส่วนที่สามารถทำให้ลูกค้าสนใจบูธมากขึ้น แบ็กดร็อปเป็นส่วนที่บ่งบอกให้รู้ว่าบูธของคุณชื่อว่าอะไร ขายสินค้าเกี่ยวกับอะไร และมีโปรโมชันที่น่าสนใจอย่างไร
3.2 โรลอัป (Roll up)เป็นป้ายโฆษณา หรือที่เรียกว่าแบนเนอร์ สามารถนำมาใช้งาน หรือม้วนเก็บได้ง่าย สะดวก อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้ซ้ำได้อีกด้วย
4. เคาน์เตอร์ (Counter)มีความจำเป็นอย่างมากในการจัดแสดงสินค้า เพราะเป็นทั้งจุดดึงดูดลูกค้า เพื่อเข้ามารับโบร์ชัวร์แนะนำสินค้า เคาน์เตอร์ควรทำให้มีเอกลักษณ์ จำง่าย และเข้ากับธีมของสินค้าด้วย
5. ผ้าคลุม (Table cover)เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย เพราะจะช่วยเสริมความน่าสนใจของบูธได้ดีทีเดียว ยิ่งผ้าคลุมมีลวดลายที่สวยสะดุดตา เข้ากันกับตัวสินค้า จะสร้างจุดที่โดดเด่นให้ลูกค้าเข้ามามากขึ้นไปอีก
6. ป้ายสแตนดี้ (Standee) เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะช่วยในการประชาสัมพันธ์สินค้าของคุณได้มากขึ้น ทั้งยังเคลื่อนย้ายได้สะดวก ในป้ายสแตนดี้สามารถใส่ข้อมูลต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจได้ เช่น รูปประกอบสินค้าที่ชวนซื้อ โปรโมชันสำหรับการซื้อในงานอิเวนต์เท่านั้น อาจมีการประกาศว่ามีสินค้าของแถมพรีเมียมด้วย เป็นต้น
7. ป้ายโปรโมชันดึงดูดลูกค้า การเตรียมป้ายโปรโมชันดึงดูดลูกค้าในการออกบูธ เป็นอีกหนึ่งไม้เด็ดสำหรับเจ้าของธุรกิจที่จะมาพิชิตกลุ่มลูกค้าให้สนใจสินค้ามากขึ้น ซึ่งหลักการตั้งโปรโมชันทำไม่ยาก แต่ก็ต้องคิดอย่างรอบคอบ รัดกุม เพื่อคำนึงถึงรายได้ที่ไม่ถึงขั้นขาดทุน อาจจะได้กำไรไม่มาก แต่อาจมาสร้างกำไรในภายหลังเมื่อได้ลูกค้ามาแล้ว โดยอาจใช้รูปแบบโปรโมชันในการซื้อสินค้า 1 แถม 1 หรือโปรโมชันที่มีสินค้าของแถมพรีเมียม เพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงความตั้งใจที่จะมอบสิ่งดีๆ
8. ทีมขายที่มีความเป็นมืออาชีพ ก่อนการออกบูธแต่ละครั้ง ควรมีการประชุมทีมทุกคนให้ชัดเจนว่า จุดประสงค์การออกบูธครั้งนี้เพื่ออะไร มีโปรโมชันอย่างไร ต้องการกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหน ตั้งเป้าหมายยอดในการขาย และปิดการขายให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีได้อย่างไร และถ้าหากเจอปัญหาก็ต้องมีสติในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าร่วมกันให้ดีด้วย เพราะฉะนั้น การเลือกทีมขายที่เป็นมืออาชีพจึงสำคัญ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้ามากขึ้นนั่นเอง
9. เตรียมนามบัตรของแบรนด์ การออกงานอิเวนต์ในแต่ละครั้ง จำเป็นต้องโฆษณาแบรนด์ให้เป็นที่จดจำให้มากที่สุด ซึ่งหนึ่งในวิธีที่จะสร้างการจดจำในระยะยาว และเพื่อให้ลูกค้าติดต่อซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง หรืออาจร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ด้วย นั่นคือการเตรียมนามบัตรของแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้าได้สามารถติดต่อภายหลังได้สะดวก อีกทั้งยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์อีกด้วย
10. เตรียมช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย การอำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าให้มากที่สุด จะช่วยให้ลูกค้าประทับใจกับการบริการมากขึ้น ซึ่งวิธีการชำระเงินที่หลากหลายก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่สามารถเพิ่มยอดขายได้ เพราะเมื่อทุกอย่างดูสะดวก รวดเร็ว การตัดสินใจซื้อก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
โดยสรุป การออกบูธมีวัตถุประสงค์หลักๆ คือเพื่อกระตุ้นยอดขาย ทำให้คนได้รู้จักแบรนด์ แบรนด์เกิดความน่าเชื่อถือ และอื่นๆ อีกมากมายที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์มากที่สุด โดยการออกบูธต้องคำนึงถึงความพร้อมของทีมที่ต้องรู้จุดประสงค์สำคัญในการออกบูธ เน้นการปิดการขายตามเป้าที่วางไว้ โดยมีปัจจัยที่ช่วยเสริมให้บูธมีความน่าสนใจ และอยากจะซื้อสินค้า อย่างการตกแต่งบูธให้มีความน่าสนใจ มีกิจกรรมให้เล่น รวมทั้งการมีสินค้าของแถมพรีเมียมเพื่อสร้างความประทับใจ นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดของการออกบูธคือการทำตามแผนที่เตรียมไว้ และทีมงานมีความพร้อมกันทุกคน เพื่อที่ในวันงานจะได้ไม่เกิดปัญหา และถ้าหากเกิดปัญหา ทีมงานก็จะรู้วิธีการรับมือได้ในทันที

งานไทยเที่ยวไทย เป็นงานแฟร์เก่าแก่นานกว่า 23 ปี มีผู้ประกอบการมาออกบูธครั้งละหลายร้อยบูธ การจัดงานส่วนใหญ่จะประสบความสำเร็จด้วยดีทุกครั้ง เพราะผู้ประกอบการเตรียมตัววางแผนมาอย่างดีดี ผู้จัดงานจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนปฏิบัติในการออกบูธอย่างละเอียด รวมถึงมีบริการให้คำปรึกษาแบบครบวงจร ทำให้ผู้แสดงสินค้าประทับใจและกลับมาออกบูธต่อเนื่องทุกครั้ง
ขอบคุณบทความและข้อมูลดีๆ จาก giftwise.com